การจ้างแรงงาน
ประเภทของงาน
การจ้างแรงงานแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
- พนักงานประจำ (Permanent workers)
จะได้รับเงินเดือน โบนัส และสวัสดิการอื่นๆ - พนักงานแบบสัญญา (Contract workers)
จะได้รับการจ้างงานตามระยะเวลาที่ กำหนดตามสัญญาการจ้างงานที่ทำกับนายจ้าง รัฐบาลมีกฎระเบียบว่า สัญญาการจ้างงานจะมีอายุสูงสุดเพียง 2 ปีและสามารถต่อสัญญาได้อีก 1 ปีแต่ไม่เกิน 2 ปี ปัจจุบันหลายบริษัทเลือกใช้วิธีการจ้างงานตามระยะเวลาที่กำหนดตามสัญญาฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินค่าชดเชยในกรณีที่มีการให้พนักงานออกจากงาน นายจ้างมีสิทธิที่จะบอกเลิก หรือต่อสัญญาจ้าง พนักงานที่มีการจ้างแบบระะสัญญาจ้างจะได้รับเงินเดือนเป็นรายเดือน มีวันหยุดตามศาสนาและไม่มีสวัสดิการใดๆ - พนักงานแบบรับช่วงต่อ (Outsourcing workers)
เป็นระบบที่มีการจัดหาพนักงาน ให้กับบริษัทอื่นๆ ที่มีความต้องการพนักงาน พนักงานที่ได้รับการคัดเลือกภายใต้ระบบการรับช่วงต่ออาจมีสถานะเป็นพนักงานประจำ หรือพนักงานชั่วคราว บริษัทที่ให้บริการจัดหาพนักงานรับช่วงต่อ จะต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงแรงงาน
กฎหมายแรงงานเลขที่ 13/2003 มีมาตราสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการจ้างพนักงานแบบรับช่วงต่อ ดังนี้
- มาตราที่ 50-55 และมาตราที่ 56-59
กำหนดให้พนักงานแบบรับช่วงต่ออาจทำงานพิเศษนอกเหนือจากงานประจำหรือทำงานพิเศษที่เกี่ยวข้องกับงานประจำก็ได้ - มาตราที่ 66
มีงานเพียง 5 ประเภทเท่านั้นที่สามารถจ้างพนักงานทำงานภายใต้ระบบการรับช่วงต่อ ได้แก่ งานบริการจัดเลี้ยง การให้บริการทำความสะอาด การรักษาความปลอดภัย บริการสนับสนุนการทำเหมือง และบริการขนส่งพนักงาน หากเป็นงานที่นอกเหนือจากงาน 5 ประเภทข้างต้นอาจไม่สามารถจ้างพนักงานทำงานภายใต้ระบบการรับช่วงต่อได้
ประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับจากการจ้างงานแบบรับช่วงคือ บริษัทไม่มีข้อผูกมัดที่จะต้องจ่ายเงินชดเชยเมื่อใดก็ตามที่ตัดสินใจ
ยกเลิกการจ้างงานของพนักงาน

เวลาการทำงาน
ข้อกำหนดของกฎหมายแรงงานกำหนดว่า เวลาการทำงานจะต้องไม่มากกว่า 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยปกติเวลาการทำงานจะเป็น (1) 8 ชั่วโมงต่อวัน สำหรับผู้ที่ทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ หรือ (2) 7 ชั่วโมงต่อวันสำหรับคนที่ทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ กฎระเบียบของเวลาทำงานจะไม่มีผลบังคับใช้กับงานในบางสาขาที่กำหนด

การทำงานล่วงเวลา
การทำงานล่วงเวลาจะถูกควบคุมและกำกับโดยกฎกระทรวงแรงงานเลขที่ KEP.102/MEN/VI/2004 ทั้งนี้ การทำงานล่วงเวลาจะเป็นไปตามข้อกำหนดของแต่ละบริษัท โดยพนักงานมีสิทธิที่จะได้รับการจ่ายเงินค่าล่วงเวลาในอัตราพิเศษ
วันทำงาน | อัตราตัวคูณพื้นฐาน | ||
ปกติ | ชั่วโมงแรก | ชั่วโมงถัดไป | |
วันจันทร์-เสาร์ | - | 1.5 | 2 |
วันอาทิตย์และวันหยุด | 2 | 3 | 4 |
ที่มา: Ministry of Manpower and Transmigration

การฝึกอบรมของพนักงาน
กฎกระทรวงเลขที่ KEP.261/MEN/XI/2004 ได้กำหนดให้บริษัทที่มีพนักงานตั้งแต่ 100 คนขึ้นไปจะต้องจัดฝึกอบรมให้แก่พนักงานอย่างน้อยร้อยละ 5 ของจำนวนพนักงานทั้งหมดในแต่ละปี
บริษัทที่ถูกกำหนดให้จัดฝึกอบรมในแต่ละปีนั้น จะต้องจัดเตรียมกำหนดการฝึกอบรมรายปีซึ่งประกอบด้วยประเภทของการฝึกอบรม ระยะเวลาและสถานที่ของการฝึกอบรม ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในการจัดการฝึกอบรมจะเป็นความรับผิดชอบของบริษัททั้งหมด

สิทธิของพนักงานและวันหยุด
- เงินเดือน
- โบนัส
- สวัสดิการอื่นๆ รวมทั้งค่าใช้จ่ายของที่พักอาศัยและเงินกู้
- ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
- ค่าใช้จ่ายในการคลอดบุตรและวันลาพักคลอดบุตร 3 เดือน (1.5 เดือนก่อนคลอดบุตรและ 1.5 เดือนหลังจากคลอดบุตร)
สำหรับพนักงานผู้หญิง - ประกันสังคม
- วันหยุดรายสัปดาห์ กำหนดให้หยุด 1 วันหลังจากทำงาน 6 วันและวันหยุด 2 วันหลังจากทำงาน 5 วัน
- วันหยุดรายปี กำหนดให้มีวันหยุดได้ 12 วันทำงานหลังจากที่ทำงานต่อเนื่องกัน 12 เดือนขึ้นไป
- วันหยุดพักผ่อน กำหนดให้หยุดได้ไม่เกิน 2 สัปดาห์หลังจากที่ทำงานมาแล้วอย่างน้อย 6 ปี
- วันหยุดตามกฎกระทรวงแรงงานเลขที่ 04/MEN/1994 บริษัทจะกำหนดให้พนักงานได้หยุดงานในวันหยุดทางศาสนาทุกปี

สหภาพแรงงาน
ตามกฎหมายฉบับที่ 21/2000 รัฐบาลอนุญาตให้พนักงานทุกคนมีสิทธิในการจัดตั้งสหภาพแรงงานและเป็นสมาชิกของสหภาพแรงงาน ทั้งนี้ บริษัทที่มีคนงานอย่างน้อย 10 คนก็สามารถจัดตั้งสหภาพแรงงานได้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนกับนายจ้าง
สหภาพแรงงานสามารถจัดตั้งโดยพนักงานในบริษัทหรือบุคคลภายนอกบริษัทก็ได้ ทั้งนี้ รูปแบบสหภาพแรงงานคือเป็นองค์กรอิสระและเปิดเผย เป็นประชาธิปไตยและรับผิดชอบในการต่อสู้เพื่อแรงงานในกรณีที่มีข้อโต้แย้งกับนายจ้าง องค์กรของรัฐที่เกี่ยวข้องกับแรงงานคือสมาพันธ์แรงงานแห่งชาติ (Federation of Indonesian Workers) ซึ่งประกอบด้วยสหภาพแรงงานจำนวน 21 แห่งและ SPLP จำนวน 13 แห่ง

การประกันสังคมของแรงงาน
รัฐบาลได้จัดตั้งโครงการประกันสังคมซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของหน่วยงานประกันสังคมของรัฐ ซึ่งครอบคลุมเรื่องต่างๆ ดังนี้
- การประกันการเกษียณอายุ
- การประกันสุขภาพ
- การประกันอุบัติเหตุจากการทำงาน
- การประกันการเสียชีวิต
เบี้ยประกันของโครงการประกันสังคมจะคิดจากร้อยละ 5.7 ของเงินเดือนและร้อยละ 3.7 ของเงินสมทบจากนายจ้าง โดยนายจ้างที่มีลูกจ้าง 10 คนขึ้นไปที่มีอัตราค่าจ้างพนักงานต่อคนเป็นจำนวนมากกว่า 1 ล้านรูเปียห์จะต้องเข้าร่วมโครงการประกันสังคม หากเจ้าของธรุกิจที่ไม่มีลูกจ้างก็สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้เช่นกัน

อัตราค่าจ้างแรงงาน
อัตราค่าจ้างในแต่ละภูมิภาคกำหนดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งจะมีอัตราที่แตกต่างกันไป ในปี 2009 อัตราค่าจ้างขั้นต่ำได้ถูกปรับสูงขึ้นร้อยละ 9-16 จากปี 2008
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำในพื้นที่สำคัญ (สถิติปี 2009)
จังหวัด | ปี 2009 (พันรูเปียห์) |
ปี 2008 (พันรูเปียห์) |
สุมาตราตอนเหนือ | 905 | 822.2 |
สุมาตราตะวันตก | 880 | 800 |
เรียว | 901.6 | 880 |
จัมบี | 800 | 724 |
ชวาตะวันตก | 628.19 | 568.19 |
จาการ์ตา | 1069.86 | 972.60 |
บันเตน | 917.5 | 837 |
ยอกยาการ์ตา | 700 | 586 |
ชวาตะวันออก | 570 | 500 |
บาหลี | 760 | 682 |
กาลิมันตันตะวันตก | 705 | 645 |
กาลิมันตันตอนใต้ | 930 | 825 |
กาลมันติันตอนกลาง | 888.41 | 765.87 |
กาลิมันตันตะวันออก | 955 | 889.65 |
โมลุกกะ | 775 | 700 |
ที่มา: Salary Directorate&Jamsostek, PHI Directorate&Jamsostek, Manpower and Transmigration Ministry

แรงงานต่างชาติ
แรงงานต่างชาติที่ถือวีซ่าอินโดนีเซียสามารถทำงานในอินโดนีเซียได้ ธุรกิจที่สามารถจ้างแรงงานต่างชาติได้คือ สำนักงานตัวแทนการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานตัวแทนของบริษัทในต่างประเทศหรือสำนักข่าวต่างประเทศ บริษัทลงทุนของต่างประเทศ บริษัทลงทุนของอินโดนีเซีย บริษัทที่ดำเนินงานเพื่อโครงการของรัฐ และโครงการช่วยเหลือต่างๆ สถาบันเพื่อสังคม การศึกษา วัฒนธรรมและศาสนา ธุรกิจบริการ
นายจ้างของแรงงานต่างชาติจะต้องมีการจัดทำแผนการใช้แรงงานต่างชาติโดยจะต้องระบุเหตุผลในการใช้แรงงานต่างชาติ ตำแหน่ง ค่าจ้าง จำนวน สถานที่ทำงาน ระยะเวลาการค้าง และจำนวนแรงงานท้องถิ่นที่จะทำงานด้วย
แผนการใช้แรงงานต่างชาติที่มากกว่า 50 คนขึ้นไปจะต้องได้รับการอนุมัติจากอธิบดีกระทรวงแรงงาน แต่หากความต้องการจ้างแรงงานต่างชาติที่น้อยกว่า 50 คนนั้น ก็สามารถขออนุมัติจากผู้อำนวยการกองของกระทรวงแรงงาน ทั้งนี้ ใบอนุญาตให้ใช้แรงงานต่างชาตินี้จะต้องเข้ารับการต่ออายุเป็นประจำทุกปี
นายจ้างที่มีแรงงานต่างชาติทำงานนั้นจะต้องจัดให้แรงงานต่างชาตินั้นเข้าร่วมโครงการประกันสังคมด้วย โดยพนักงานต่างชาติที่ได้รับเงินค่าจ้างต่อเดือนมากกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐ นายจ้างจะต้องจ่ายเงินล่วงหน้าให้กับกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานโดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของรัฐที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกำหนดไว้
แรงงานต่างชาติไม่สามารถทำงานมากกว่า 1 ตำแหน่ง และทำงาน 2 แห่ง ตำแหน่งของแรงงานต่างชาติ คือ ช่างเทคนิค ผู้เชี่ยวชาญ ผู้จัดการ ผู้อำนวยการ คณะผู้แทน ที่ปรึกษา
แหล่งข้อมูล: สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.depthai.go.th