การลงทุน

        ปัจจุบันไทยลงทุนเป็นอันดับที่ 10 ในอินโดนีเซีย มูลค่าการลงทุนจากปี 2519 ถึงปัจจุบันกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยปี 2551 ถึงต้นปี 2552 มีจำนวน 328.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่มีภาคการลงทุน ดังนี้

• กลุ่มบริษัทสยามซีเมนต์ (Siam Cement Group – SCG)
  มีบริษัทร่วมทุนกับเอกชนท้องถิ่นเพื่อผลิตวัสดุก่อสร้าง ได้แก่ ผลิตกระเบื้องเซรามิก ผลิตยิปซั่ม ผลิตคอนกรีต และการผลิต
  ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์
• บริษัทศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน)
  ผลิตยางอัดแท่ง มีโรงงานแปรรูปที่เมือง Palembang บนเกาะสุมาตราและเมือง Pontianak บนเกาะกาลิมันตัน
• บริษัทเจริญโภคภัณฑ์
  ผลิตเนื้อสัตว์ (หมู ไก่ กุ้ง) และอาหารสัตว์ จดทะเบียนเป็นบริษัทท้องถิ่นชื่อ Charoen Pokphand Group Indonesia
• บริษัท PT. Indonesia Thai Summit Auto Company
  ผลิตชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์

• บริษัท บ้านปู
  เป็นธุรกิจเหมืองถ่านหินบนเกาะกาลิมันตัน จัดตั้งในอินโดนีเซียตั้งแต่ปี 1987 ภายใต้ชื่อ บริษัท PT Indo Tambangraya Megah TBK (ITM) และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซียในเดือนธันวาคม 2007
• บริษัทลานนาลิกไนท์

• บริษัท PTT Green Energy
  ปลูกและผลิตน้ำมันปาล์ม

• บริษัทโอสถสภา จำกัด
  จำหน่ายเครื่องดื่มให้พลังงาน M-150

• บริษัท Thai Martin Group
  เป็น Franchise ของร้านกาแฟ Coffee World และร้านไอศกรีม Cream and Fudge

การลงทุนในอุตสาหกรรมการประมง

        อินโดนีเซียเป็นแหล่งทำการประมงนอกน่านน้ำที่ใหญ่ที่สุดของไทย แหล่งทำ การประมงที่สำคัญในน่านน้ำอินโดนีเซีย ได้แก่ ทะเลจีนใต้ (บริเวณหมู่เกาะนาทูนา) และทะเลอาราฟูรา (บริเวณอิเรียน- จายา) อย่างไรก็ดี ตั้งแต่เดือนกันยายน 2549 อินโดนีเซียได้ยกเลิกระบบสัมปทานและเปลี่ยนแปลงระเบียบ รวมทั้ง ดำเนินนโยบายปกป้องทรัพยากรทางทะเล จึงเพิ่มความเข้มงวดในการปราบปรามเรือต่างชาติที่ทำผิดกฎหมาย และ กำหนดให้เอกชนไทยเข้าสู่ระบบการร่วมลงทุนทำการประมงและลงทุนทำอุตสาหกรรมต่อเนื่องในอินโดนีเซีย

การลงทุนของอินโดนีเซียในไทย

        ไทยในกลุ่มประเทศอาเซียน อินโดนีเซียลงทุนในไทยเป็นลำดับที่ 3 รองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย มูลค่าการลงทุนในปี 2551 ประมาณ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อินโดนีเซียลงทุนในสาขาอุตสาหกรรมและผลิตผลจากการเกษตรมากที่สุด รองลงมาคือสาขาอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ กระดาษ พลาสติก นอกจากนั้น เป็นการลงทุน ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เซรามิกส์ โลหะขั้นมูลฐาน อุตสาหกรรมเบา และอุตสาหกรรมเครื่องจักร ตามลำดับ โครงการลงทุนที่สำคัญของอินโดนีเซีย ได้แก่

1. โครงการผลิตอาหารทะเลแห้งของบริษัทหาดใหญ่มารีนโปรดักซ์ จำกัด ซึ่งเป็นการลงทุนร่วมระหว่างอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ มีมูลค่าการลงทุน 662.4 ล้านบาท
2. บริษัทอินเตอร์ รูฟ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผลิต Tin Plate ซึ่งเป็นการลงทุนร่วมระหว่างอินโดนีเซียและไลบีเรีย มีมูลค่าการลงทุน 430 ล้านบาท
3. บริษัทไทยบรันตามูเลีย จำกัด เป็นบริษัทที่อินโดนีเซียถือหุ้นทั้งหมดและมีการลงทุนในไทยมากที่สุด มูลค่า การลงทุน 390 ล้านบาท ผลิตยาง Tyre Cord ประมาณปีละ 4,800 ตัน

การท่องเที่ยว

        ในปี 2550 คนอินโดนีเซียมาไทยประมาณ 235,000 คน และคนไทยไปอินโดนีเซียประมาณ 28,800 คน อย่างไรก็ดี โอกาสในการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังมีมากเพราะตั้งแต่เดือนธันวาคม 2552 ได้มีการให้ บริการเที่ยวบินตรงสองเส้นทางได้แก่ จาการ์ตา-ภูเก็ต-จาการ์ตา และเมดาน-ภูเก็ต-เมดาน ซึ่งจะส่งผลให้นักท่องเที่ยว ชาวไทยและอินโดนีเซียเดินทางไปมาระหว่างเมืองท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศสะดวกสบายยิ่งขึ้นในอนาคต